วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ความเป็นมาของศิลปะการตัดกระดาษ

จากหลักฐานการศึกษาและการค้นพบศิลปะการตัดกระดาษที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าศิลปะการตัดกระดาษเป็นศิลปะพื้นเมืองประเภทหนึ่งที่แพร่หลายกันอย่างมากในประเทศจีนมานานาแล้ว ส่วนความเป็นมาของศิลปะการตัดกระดาษนั้น สามารถย้อนประวัติไปได้ถึงคริสตศักราชที่ ๖ คือ ก่อนสมัยราชวงศ์ถางของจีนประมาณ ๑,๕๐๐ ปี แต่ผู้คนโดยทั่วไปเชื่อว่าต้นกำเนิดของศิลปะการตัดกระดาษนั้น น่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีกหลายร้อยปี เพราะว่า ประการหนึ่ง จีนเป็นต้นกำเนิดประเทศที่ประดิษฐ์กระดาษขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปี ค.ศ. ๑๐๕ สมัยราชวงศ์ซีฮั่น คือเมื่อประมาณ ๑,๙๐๐ ปีมาแล้ว ประการที่สอง ผลงานจากศิลปะการตัดกระดาษที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งค้นพบได้ที่ซินเกียงในปัจจุบันคือ ผลงานจากศิลปะการตัดกระดาษรูปภาพลายดอกไม้ ๕ ภาพ สมัยระหว่างปี ค.ศ. ๓๘๖ ถึง ๕๘๑ คือ ประมาณ ๑,๕๐๐ – ๑,๗๐๐ ปีมาแล้ว และประการที่สาม จากบันทึกทางประวัติศาสตร์หรือเกร็ดพงศาวดารนั้น ก็ได้มีการบันทึกเกี่ยวกับศิลปะการตัดกระดาษมานมนาน เช่น ในบทกวีของสมัยราชวงศ์ถาง อย่างบทกวีของตู้ฟู่ ก็มีคำว่า ศิลปะการตัดกระดาษแล้ว น่าจะกล่าวได้ว่าศิลปะการตัดกระดาษได้พัฒนามาเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่นิยมกันมากในสมัยราชวงศ์ถาง ประมาณ ๑.๔๐๐ ปีมาแล้ว จึงสรุปได้ว่าประวัติของศิลปะการตัดกระดาษนั้นมีมาตั้งแต่สมัยที่จีนได้คิดประดิษฐ์กระดาษขึ้นในสมัยราชวงศ์ซีฮั่น ถึงสมัยก่อนราชวงศ์ถาง เป็นต้นมา จึงคาดว่าประวัติมายาวนานอย่างน้อย ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว


ในอดีตนั้น ผู้คนมักจะนำกระดาษมาตัดเป็นรูปภาพตามวัตถุสิ่งของต่าง ๆ หรือรูปภาพของมนุษย์ในอิริยาบถต่าง ๆ เป็นต้น แล้วนำไปฝังรวมกับศพของผู้ตามหรือนำไปเผาในพิธีฌาปนกิจ ซึ่งประเพณีดังกล่าวนี้ยังคงเหลืออยู่ให้เห็นในพื้นที่ต่าง ๆ นอกประเทศจีน นอกจากนี้ศิลปะการตัดกระดาษ ยังถูกนำไปใช้ตกแต่งเครื่องบูชาสำหรับพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การเซ่นไหว้บรรพบุรุษและบวงสรวงทวยเทพ เป็นต้น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง หนังตะลุงได้เจริญเติบโตขึ้นอย่างมากในจีน โดยมีการนำกระดาษมาใช้แทนหนังแท้ๆ แล้วนำไปใช้ในการทำเป็นหุ่นในหนังตะลุง เรียกกันว่าเงากระดาษ ครั้นถึงราชวงศ์ หมิงและชิง ศิลปะการตัดกระดาษก็มีฝีมือละเอียดประณีตขึ้น แต่เนื่องจากวัสดุที่ใช้เป็นกระดาษ ซึ่งยากแก่การเก็บรักษา จึงมีผลงานศิลปะการตัดกระดาษที่ตกทอดเป็นหลักฐานมาถึงชนรุ่นหลังให้เห็นน้อยชิ้นมากอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามมาถึงปัจจุบันนี้ศิลปะการตัดกระดาษก็ยังคงเป็นที่นิยมกันในหมู่ประชาชนชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปใช้ในการตกแต่งประดับประดามากขึ้นทุกที อาทิ นำไปประดับฝาผนัง ประตู หน้าต่าง เสาอาคาร กระจก และโคม เป็นต้น หรือนำไปตกแต่งของฝาก หรือของชำร่วย แท้จริงนั้นผลงานศิลปะการตัดกระดาษอย่างเดียวนั้น ก็นับได้ว่าเป็นของที่ระลึกหรือของฝากที่น่าประทับใจชิ้นหนึ่งที่ฝากผู้คนได้ นอกจากนี้แล้วศิลปะการตัดกระดาษยังถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในการเย็บปักถักร้อยและการพ่นสี เป็นต้น เราสามารถเห็นศิลปะการตัดกระดาษได้ทุกพื้นที่ของประเทศจีน อย่างเช่นที่นครเทียนจิน เมืองหยางโจว มณฑลเหอเป่ย์ ซานซี เจียงซู อานฮุย หูหนาน ซานตุง และเมืองเหวย์ฟาง เป็นต้น ศิลปะการตัดกระดาษนั้นสะท้อนถึงเรื่องราวต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งด้านประเพณี บุคคล สัตว์ ทัศนียภาพธรรมชาติ พงศาวดาร ต้นไม้ใบหญ้า ฯลฯ โดยมีการตั้งซื่อที่ไพเราะจับใจ อาทิ มังกรหงส์ศิริ หนูแต่งเมีย เทพีบงกช โป๊ยเซียน หรือแปดเทพ สี่นางงามสมความปรารถนา เป็นต้น

ศิลปะการตัดกระดาษนับว่าเป็นศิลปะที่มีกลวิธีในการตัด และสลักลงในกระดาษแผ่นบาง ๆ โดยใช้กรรไกร หรือมีด เป็นเครื่องมือในการตัด เป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของชาวจีน และยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนถึงปัจจุบันโดยเฉพาะในเขตชนบทของจีนที่มณฑลจี๋หลิน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนนั้น มีศิลปินมีศิลปะในการตัดกระดาษพื้นเมืองชื่อดังผู้หนึ่ง ชื่อ นายเฉิน โกว๋จาง ที่สร้างผลงานการตัดกระดาษมาเป็นเวลากว่า ๔๐ ปีแล้ว ผลงานชิ้นที่สำคัญของเขารวมถึงบุคคลร้อยแปดในนวนิยาย เรื่องซ้องกั๋ง กษัตริย์เฉียงหลุง ฮ่องเต้เสด็จยังเขตกวางตุง และภาพชุดเกี่ยวกับประเพณีในเขตกวางตุง เป็นต้น ผลงานนับพันชิ้นของนายเฉิน โกว๋จาง ยังได้ถูกนำไปทำเป็นของขวัญมอบให้แก่แขกเมือง และเพื่อนสนิทมิตรสหายชาวต่างชาติ เช่น อเมริกัน แคนาดา ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น เป็นต้น

ศิลปินด้านศิลปะการตัดกระดาษที่มีชื่อเสียงอีกผู้หนึ่ง คือ นายหู เป่าโกว๋ ผู้ที่ได้สมญานามว่าราชาผีเสื้อของจีน อันเนื่องจากว่า นายหู เป่าโกว๋ ชำนาญในศิลปะการตัดกระดาษรูปภาพผีเสื้อนั่นเอง เขาศึกษาผลงานศิลปะการตัดกระดาษมาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปีแล้ว ความรักในศลปะการตัดกระดาษทำให้ผลงานของเขาได้ชื่อว่าเป็นระดับหัวกระทิแห่งศิลปะการตัดกระดาษ นับจาก ๑,๕๐๐ ปีของประชาชาติจีน เป็นต้นมา นอกจากนี้ นายหู เป่าโกว๋ ยังได้เปิดอบรมหลักสูตรศิลปะการตัดกระดาษขึ้นที่เมืองคายเฟิงมณฑลเหอหนานโดยเปิดรับสมัครทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติที่มีความสนใจเข้าศึกษาอย่างเปิดกว้าง หากท่านมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศจีน ท่านก็จะได้เห็นผลงานศิลปะการตัดกระดาษที่ปรากฎทั่วไปอย่างกลาดเกลื่อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีการปิดชิ้นงานศิลปะการตัดกระดาษดังกล่าวไว้บริเวณหน้าต่าง หรือประตูแทบทุกวัน ส่วนที่เขตชนบทนั้นท่านอาจจะเห็นหญิงสาวชาวจีนตัดกระดาษในยามว่างจากการทำสวน ทำไร่ ส่วนในเมืองก็อาจจะเห็นผู้สูงอายุกำลังฝึกหัดศิลปะการตัดกระดาษ สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะว่าวัตถุดิบในการสร้างผลงานศิลปะการตัดกระดาษนั้น หาง่าย ต้นทุนต่ำ และเห็นผลเร็ว ซึ่งเพียงแต่ให้มีกระดาษและกรรไกรหรือมีดก็พอแล้ว กระดาษนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษสีแดง กระดาษสีดำ หรือกระดาษสีขาว ผลงานที่ออกมานั้นมีเพียงแต่จะนำไปใช้ได้อย่างคุ้มค่าเท่านั้น หากยังเป็นการเติมความสวยงามหรือสนใสให้แก่ชีวิตอีกด้วย ศิลปะการตัดกระดาษจีนนับว่าได้แฝงคุณค่าลึกซึ้งกินใจอยู่ในจิตสำนึกของชาวจีนมายาวนาน พร้อม ๆ กับการพัฒนาของสังคม และมีความหมายแฝงเร้น นั่นก็คือปรารถนาให้ชีวิตมีความสดใสสวยงามยิ่ง ๆ ขึ้นไปนั่นเอง

วัสดุที่ใช้ในการผลิต

๒.๑ กระดาษสีต่าง ๆ (กระดาษแก้ว)

๒.๒ กระดาษเงิน กระดาษทอง

ขั้นตอนการตัดกระดาษลวดลายต่าง ๆ

๕.๑ เตรียมลายที่จะใช้ในการตัดกระดาษ ตามลวดลายที่ต้องการ
๕.๒ เตรียมกระดาษสี (กระดาษแก้ว) ที่ใช้ในการตัด
๕.๓ พับกระดาษ และตัดกระดาษตามลวดลายต่าง ๆ
ในการตัดกระดาษลวดลายต่าง ๆ นั้น ทำได้หลายแบบ จะใช้วิธีการพับแล้วตัดลงไปบนกระดาษเพื่อให้เกิดลวดลายหลายแบบก็ได้
การตัดกระดาษด้วยวิธีใช้แบบลงบนกระดาษ (ลอกลายลงบนกระดาษ) โดยการพับกระดาษเป็น ๓ ส่วน นำลายที่ต้องการ สอดลงบนกระดาษและลอกลาย

เครื่องมือที่ใช้ในการผลิต

๔.๑ ตะปู
๔.๒ ฆ้อน
๔.๓ ดินสอ
๔.๔ กรรไกร
๔.๕ กาว
๔.๖ เข็ม - ด้าย

แหล่งที่มาของวัสดุ

สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป

ประโยชน์/หน้าที่ใช้สอย

ใช้ในการประดับประตู หน้าต่าง บริเวณภายในบ้าน ในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานสมรส งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้กระทั่งงานศพ ก็มี แต่จะไม่ค่อยได้พบเห็นมากนัก ส่วนใหญ่จะนิยมประดับกระดาษลวดลายต่าง ๆ เนื่องในงานมงคลทั่วไป ปัจจุบันนับว่าจะหาดูได้ยากโดยเฉพาะในเขตชุมชนเมืองส่วนในชนบทก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก